Always Beside You [4/?]
6:30 am
by chickyrabb
Talk:
ตอนนี้ก็อบฟิคทั้งหมดมาไว้ในบล็อกนี้แล้ว
จะเริ่มลงฟิคใหม่ๆ แล้วค่ะ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะลงเรื่องยาวหรือเรื่องสั้นก่อน
เพราะไม่รู้จะอันไหนจะแต่งจบก่อนกัน 55555555
เรื่องสั้นเรื่องต่อไปเป็น Niam ซะด้วยยย
พล็อตยังไม่มั่นใจแต่คิดว่าอาจจะทำมาเป็นซีรี่ย์หน้าหนาวสักสองสามตอน ปีที่แล้วมี Mr.
Hazel ตอนพิเศษเป็นวันเกิดของคุณเฮเซลกับลูแบร์ไป ปีนี้เลยอยากทำเป็นซีรี่ย์ต่อกันบ้างแต่อาจจะไม่ใช่
Niam ทั้งหมด อาจจะเป็น Niam Zarry Lirry ต่อๆ กันไป
ตอนนี้ความคิดยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ แต่จะรีบแต่งมาลงให้ทันซีซั่นนี้ค่ะ :)
ส่วนตอนนี้ก็ไปอ่านเรื่องนี้กันก่อนดีกว่าเนอะ
ตอนที่สี่นี้ยังไม่ค่อยต่างจากเดิมเท่าไหร่ แต่ตอนหน้าจะเริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วค่ะ
ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ xx
บ้านที่เคยส่งเสียงดังโวยวายตอนนี้กลับเงียบสนิทราวกับไม่มีคนอยู่
เพราะคนที่เคยส่งเสียงเจื้อยแจ้วไม่ยอมพูดจานั่งเงียบอย่างไร้อารมณ์
ตั้งแต่ลูอิสมาเก็บเสื้อผ้าและของใช้ของเซนออกไป เขาก็รู้สึกใจหายคล้ายกับจะไม่ได้เจอกับเซนอีก
“เดี๋ยวแฮร์รี่หายดี
เซนก็กลับมาแล้ว” เลียมพูดปลอบพลางตัดแบ่งแซนวิสไก่บาร์บีคิวที่เขาทำเป็นอาหารกลางวันให้พอดีคำ
“ไม่หรอก
ฉันรู้สึกเหมือนเซนจะโกรธฉันเลย ฉันทำเกินไปรึเปล่า”
ไนออลเกยคางไว้กับโต๊ะอย่างอ่อนแรง เขารู้สึกว่าตัวเองทำร้ายอีกคนไม่มากก็น้อยเลยหนักใจอยู่แบบนี้
เพราะเซนไม่ยอมเอาเสื้อกลับมาคืนด้วยตัวเอง
ทั้งที่บอกลูอิสก็ได้ว่าขอกลับมาที่บ้านก่อน
พวกเขาไม่เคยห่างกันทั้งที่ยังทะเลาะกันอยู่เลยสักครั้ง
“เขาไม่เคยโกรธนาย
นายก็น่าจะรู้ อีกอย่างบ้านลูอิสอยู่แค่นี้เอง จะไปหาเมื่อไหร่ก็ได้
เขาไม่หายไปไหนหรอก”
“งั้นไปเลยได้มั้ย”
เลียมถอนหายใจมองอีกคนด้วยรอยยิ้ม
ขณะนึกหาคำเลี่ยงที่ไนออลน่าจะพอใจอยู่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน
ไนออลยื่นหน้ามาดูว่าใครโทรมา พอเห็นว่าเป็นเซนก็ส่งสายตาออดอ้อนมาทันที
“ขอฉันเถอะนะ”
เลียมไม่สามารถปฏิเสธคำขอนั้นได้
“เซน
นายอยู่บ้านนู้นใช่มั้ย แฮร์รี่เป็นยังไงบ้าง เขาไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย
ตอนลูอิสมาโวยวายซะใหญ่โตเลย แล้วทำไมนายไม่โทรบอกฉันเลย เสื้อมาส่งแล้วนะ ฉัน...”
ไนออลเงียบเสียงไปเมื่ออีกคนพูดโต้ตอบกลับมา
“ขอโทษนะ
ฉันคงต้องอยู่ที่นี่สักพักเลยล่ะ” น้ำเสียงที่ได้ฟังทำให้ไนออลไม่กล้าจะพูดอะไรต่อ
“ขอคุยกับเลียมได้มั้ย”
ไนออลส่งให้คนที่จ้องอยู่อย่างว่าง่ายจนเลียมต้องขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ
แต่ก็รับโทรศัพท์มาแนบหู
“ว่าไง”
“ฉันยังไม่ได้กลับไปเร็วๆนี้นะ
ฝากดูแลไนออลด้วย”
พอได้ยินอย่างนั้นเลียมก็ลุกเดินหนีไนออลที่ทำหน้าหมองลงยิ่งกว่าเดิม
“ฉันรู้ว่านายดูแลเขาได้”
เซนยังคงพูดต่อโดยที่ไม่รู้ว่าคนฟังทำสีหน้าอย่างไร
“หมายความว่ายังไง”
เลียมถามกลับเมื่อเดินพ้นระยะที่ไนออลสามารถได้ยินมาแล้ว
“นายเคยบอกว่าเขาขาดฉันไม่ได้
แต่ขาดนายได้ไม่ใช่เหรอ”
“เราตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองไม่ได้นะ
เซน ฉันเคยบอกแล้วไง”
เลียมย้ำเตือนถึงเรื่องราวปวดหัวครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเคยคุยกัน
ครั้งนั้นเหมือนเซนจะไม่เต็มใจยอมรับมัน ถึงได้วกกลับมาคิดเรื่องนี้อีกครั้ง
“แต่เขาก็ตัดสินให้เราไม่ได้ไม่ใช่เหรอ
ฉันก็แค่อยากรู้อะไรบางอย่างเท่านั้นเอง” เลียมถอนหายใจยาวอย่างหนักอก
เมื่อรับรู้ว่าตัวเองไม่สามารถห้ามปรามอีกคนได้
“อย่านานนักล่ะ
ฉันรับมือไนออลคนเดียวไม่ไหว” เซนตอบรับก่อนจะวางสายไป เลียมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
เขาคนเดียวรับมือกับไนออลไม่ได้แน่
เซนไม่อยู่มีแต่ไนออลจะเอาแต่ใจมากขึ้น
และเขาเองก็ไม่เคยปฏิเสธไนออลได้เลยสักครั้ง
เซนเองก็อยู่ใกล้แค่นี้ไนออลคงไม่พ้นร้องให้พาไปหา
ครั้งนี้เซนอาจจะพิสูจน์อะไรไม่ได้เลยก็ได้
แต่ระหว่างนั้นเขาก็จะดูแลไนออลให้ดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ก็แล้วกัน
“แฮร์รี่”
ลูอิสเปิดประตูห้องอีกคนเข้ามาแต่กลับไม่เห็นเจ้าของห้องอยู่บนเตียงเหมือนเคยจึงร้องเรียก
แฮร์รี่ไม่น่าจะไปไหน เขาเองก็เพิ่งขึ้นมาจากชั้นล่าง ถ้าแฮร์รี่ไม่ได้อยู่ห้องนี้
ก็คงอยู่ที่ห้องนอนของเขา คิดได้อย่างนั้นก็หันหลังจะกลับห้องของตน
แต่ได้ยินเสียงประหลาดดังมาจากห้องน้ำ
“อื้อ อ่ะ อ้ะ
อะ แอ่ก”
“หยุดพูดได้แล้ว”
เสียงดุดังออกมาให้ได้ยิน เขาถึงมั่นใจว่าทั้งสองคนอยู่ในนั้น
“ทำอะไรกัน”
ลูอิสเปิดประตูเข้าไป เห็นแฮร์รี่นั่งอยู่บนเค้าเตอร์ข้างอ่างล้างหน้า
เซนยืนอยู่ระหว่างขาของอีกคน มือก็จับคางให้อ้าปากออก
ส่วนอีกมือกำแปรงสีฟันไว้แน่นคล้ายจะใช้ของในมือแทงอีกคนซะอย่างนั้น
“แปรงฟัน”
เซนตอบเขาก่อนจะหันไปดุแฮร์รี่ให้เลิกดิ้น
พอแฮร์รี่เห็นสายตาคมดุดันอีกครั้งก็นิ่งสนิทไม่แม้แต่จะหายใจ
ลูอิสหัวเราะออกมาเบาๆ จะว่าไปมีเซนอยู่แบบนี้ก็เบาแรงเขาไปได้เยอะเหมือนกัน
“อ่ะ อี้ แอ่ก
แอ่ก” แฮร์รี่นั่งหน้ามุ่ยให้อีกคนแปรงฟันให้จนพอใจถึงจะออกแรงขัดขืนบ้าง
แต่พอสายตาดุส่งมาก็ต้องสงบลง
เขาไม่ชอบใจนักที่เซนทำเหมือนเขาเป็นเด็กเล็กที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แม้แต่จะแปรงฟัน
ถ้าลูอิสเป็นคนทำให้เขาจะไม่นึกบ่นเลยสักนิด
“บอกแล้วว่าอย่าพูด”
เซนบ่นอีกครั้งเมื่อปลายของแปรงสีฟันแทงด้านในปากของอีกคนจนร้องโอย
“บ้วนปากซะ”
แฮร์รี่รับแก้วน้ำจากเซนมาทำตามอย่างว่างาย
พอเงยหน้าขึ้นมาเซนก็ถือผ้าขนหนูรอเช็ดหน้าให้อยู่แล้ว
มือใหญ่ซับน้ำออกจากหน้าเขาอย่างตั้งใจ พอเขาขยับหนีเซนก็ยื่นหน้าเข้ามาแทนจนเขารู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนที่ข้างแก้ม
ลูอิสที่มองอยู่เห็นท่าไม่ดีจึงดึงมือของแฮร์รี่ข้างที่ไม่เจ็บทำให้แฮร์รี่สะดุ้ง
เซนถึงละออกไปช้าๆ
ลูอิสมองเพื่อนตัวเองที่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะลากน้องออกมาจากห้องน้ำ
“ไปนอนห้องฉันมั้ย”
เพราะเขาไม่เคยเอ่ยชวนอะไรแบบนี้แฮร์รี่ถึงได้ทำหน้าประหลาดใจตอบกลับมา
ลูอิสเริ่มไม่อยากให้แฮร์รี่อยู่กับเซนมากเกินไปแล้ว
แฮร์รี่ที่ดูบอบบางอยู่แล้วยิ่งอ่อนแอลงไปอีกเมื่อมีคนที่แข็งแกร่งอย่างเซนมาอยู่ใกล้กัน
และเพื่อนของเขาเองก็มักอ่อนโยนกับคนลักษณะนี้อีกด้วย
“มันหน้าที่ฉันไม่ใช่เหรอ
ที่ต้องดูแลคนป่วยน่ะ” เสียงทุ้มดังก่อนที่แฮร์รี่จะได้ตอบอะไร
เซนเดินมาจับไหล่ทั้งสองข้างของลูอิสและบังคับให้เดินไปที่ประตู
“เจอกันพรุ่งนี้”
“ลูอิส ฝันดีนะ”
ลูอิสส่งยิ้มหวานให้คนบอกก่อนจะถูกประตูปิดใส่หน้า
พลันนึกแค้นเคืองเพื่อนตัวเองขึ้นมา
ก่อนหน้านี้แค่จับให้อยู่ใกล้กันแค่สองเมตรก็ทำท่าจะฆ่ากันตายเสียให้ได้
พอคนหนึ่งเกือบตายขึ้นมาจริงๆ กลับดีกันซะจนเหมือนเพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่เกิด
น่าหงุดหงิดชะมัด
“นี่นาย...เซน”
แฮร์รี่เรียกคนที่นอนข้างกันอย่างประหม่า เขาเพิ่งเคยเรียกชื่อเซนเป็นครั้งแรก
“มีอะไร”
เซนตอบกลับไม่เต็มเสียง เพราะใกล้จะหลับเต็มที่แล้วแต่อีกคนดันมาเรียกไว้เสียก่อน
และเขาก็ไม่อยากอารมณ์เสียใส่แฮร์รี่ตอนนี้ด้วย
“ทำไมถึงมาดูแลฉันล่ะ”
แฮร์รี่จ้องเจ้าของแผ่นหลังที่กำลังหันกลับมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ
จริงอยู่ที่เขาอยู่กับเซนมาครึ่งวันแล้ว อีกคนทำหลายอย่างให้เขา
แต่เขาก็ยังนึกกลัวอยู่
“ก็ขอโทษไง
ฉันบอกไปแล้วนี่”
“ที่ทำดีด้วย
ก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรใช่มั้ย” ใช่ว่าแฮร์รี่จะไม่รู้ว่ารอยยิ้มของเซนนั้นไม่จริงใจซะทีเดียว
โดยเฉพาะเวลาที่ลูอิสอยู่ด้วยเซนจะอ่อนโยนเป็นพิเศษ
ด้วยความที่ไม่เคยเชื่อใจอีกคนมาก่อนจึงไม่คิดว่าจะไม่มีอะไรแอบแฝงเอาไว้
“แค่จะทำอะไรสนุกๆ
นิดหน่อย” เซนหันมาอีกคนทั้งตัว เช่นเดียวกับแฮร์รี่ที่หันมาหาเขาเช่นกัน
“ทำอะไร”
“ฉันอนุญาตให้นายถามได้หนึ่งคำถามที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้น
มีอะไรจะถามมั้ย” ที่จริงเขาแค่กวนประสาทเพื่อนเล่นก็เท่านั้น
ไม่ได้จะทำที่ยิ่งใหญ่นักหรอก ถึงแฮร์รี่รู้ไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรง่ายขึ้นอยู่ดี
ปล่อยให้ไม่รู้ไปแบบนี้น่าสนุกกว่า
“นายรู้จักแฟนของลูอิสมั้ย”
เขาคาใจเรื่องนี้มาตั้งแต่วันนั้น แต่ไม่มีโอกาสได้ถามลูอิส ไม่สิ
เรียกว่าไม่กล้าถามจะดีกว่า และเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะไปปรึกษาใครแล้วด้วย
“หื้อ
แฟนเก่าน่ะเหรอ” เซนเห็นแฮร์รี่ส่ายหน้าตายก็ยิ่งไม่เข้าใจ
ในเมื่อแฟนเก่าของลูอิสก็เลิกกันไปสองสามปีได้แล้ว
จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกับใครจะมีก็แค่คนตรงหน้าเขาเนี่ยแหละ
“ไปรู้มาจากใคร”
แฮร์รี่ไม่ได้รู้จักใครที่ไหนนอกจากพวกเขาสี่คน
และคนที่ไม่รู้ว่าลูอิสจริงจังกับแฮร์รี่มากแค่ไหนก็มีแต่...ไนออล
“ถ้าเป็นคนปัจจุบันล่ะก็...”
เซนเหลือบมองปฏิกิริยาของอีกคนขณะพลิกตัวนอนหงาย
เห็นตาสีมรกตวูบหมองลงจึงรู้ว่าตนมาถูกทางแล้ว
“เป็นคนตัวสูง
บุคลิกก็ดี ดูซื่อๆ จริงใจดี มีเสน่ห์ที่รอยยิ้ม ลูอิสชอบตรงรอยยิ้มนี่หละ”
เซนเห็นอีกคนใช้ผ้าห่มปิดหน้าหนีเขาไปแล้ว ถึงยิ้มออกมา
อยากกวนเวลานอนเขาดีนัก
ตื่นเช้ามาลูอิสตรงไปห้องแฮร์รี่ก่อนเป็นอย่างแรก
พอเห็นทั้งสองนอนหันหลังให้กันอยู่บนเตียงก็ลงมาเตรียมอาหารเช้าให้แฮร์รี่ที่ด้านล่าง
และกลับขึ้นมาเมื่อเสร็จแล้ว
เขาวางอาหารไว้ที่โต๊ะข้างเตียงก่อนจะเรียกให้เซนลุกไปล้างหน้าล้างตา
“แฮร์รี่”
เขาเขย่าเรียกเบาๆ เพราะกลัวจะสะเทือนแขนที่น่าจะยังปวดอยู่
“เจ็บ”
เสียงแหบงัวเงียบอกพลางเขยิบหนี ลูอิสยังคงพยายามต่อไป
“ตื่นมากินข้าวกินยาก่อน
แล้วค่อนนอนต่อก็ได้ แฮร์รี่”
เซนออกมาจากห้องน้ำเห็นเพื่อนปลุกคนดื้อด้านอย่างทะนุถนอมเสียจนน่าหมั่นไส้
จึงเดินตรงมาดึงแขนแฮร์รี่ข้างที่ไม่เจ็บพาดคอ
“ลุก”
เขาบอกพร้อมอุ้มอีกคนขึ้นจากเตียงตรงไปห้องน้ำโดยไม่สนใจเจ้าของบ้านที่ทั้งตกใจทั้งเป็นห่วงขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
“อ้าปาก”
เซนออกคำสั่งอีกครั้ง แต่แฮร์รี่ก็ยังนิ่งเขาเลยบีบคางให้ปากอ้าออกเอง
เซนแปรงฟันให้อีกคนโดยไม่สนใจสายตาไม่พอใจที่คนตรงหน้าส่งมาให้
เขาก็แค่หงุดหงิดที่แฮร์รี่ทำตัวดื้อด้าน
ทั้งที่แค่ตื่นมากินข้าวกินยาเสร็จก็ได้นอนต่อแล้ว ไม่รู้จะทำตัวยุ่งยากไปทำไม
“อย่ามองหน้าฉันอย่างนั้น
ฉันยังไม่อยากทำให้นายเจ็บตัวตั้งแต่เช้า”
เสียงเรียบนั้นทำให้แฮร์รี่หันมองไปทางอื่น แกว่งขารออีกคนแปรงฟันให้เขาจนเสร็จ
รู้งี้ลุกมาตั้งแต่ลูอิสเรียกและอ้อนลูอิสให้แปรงให้ซะก็ดี...คิดได้อย่างนั้นแฮร์รี่ก็ถอนหายใจออกมา
จะไปโทษเซนก็ไม่ถูก เขาพลาดโอกาสอ้อนลูอิสเองแท้ๆ
หลังบ้วนปากเซนก็ซับน้ำออกจากหน้าเขาเหมือนเดิมแต่ไม่ได้เข้ามาใกล้เหมือนเมื่อคืน
เสร็จก็เดินนำกลับไปที่เตียงที่ลูอิสเอนตัวนอนรออยู่แล้ว
แฮร์รี่ขึ้นเตียงมาได้ก็จับมือลูอิสมากุมไว้บนตักทันที
“กินด้วยกันสิ”
ยังไม่ทันที่เซนจะตักซุปในชาม แฮร์รี่ก็เอ่ยชวนคนข้างตัวทันที
“เซนป้อนให้ลูอิสด้วยได้มั้ย”
เซนไม่ได้มองคนขอแต่มองคนด้านซ้ายที่ทำหน้าไม่ถูก เขาขำก่อนจะยื่นชามให้ลูอิสในที่สุด
“ป้อนเองแล้วกัน”
เซนสบตาลูอิสอีกครั้งก่อนจะออกมาจากห้อง
ทันทีที่เซนลุกไปแขนยาวก็โอบเอวบางเข้าไปหาตัวทันที
ในที่สุดก็ได้อยู่กับลูอิสสองคนเสียที
“อ้อนจังนะ”
แฮร์รี่ไม่ตอบอะไรเพียงแค่เอียงหน้าให้พอดีกับไหล่บางก่อนจะวางหัวลงไปอย่างเหมาะเจาะ
เห็นอย่างนั้นลูอิสก็ยิ้มออกมาทันที
อย่างน้อยแฮร์รี่ก็ไม่อ้อนเซนถึงขั้นแตะเนื้อต้องตัวกันล่ะนะ
เมื่อกี้ตอนที่แฮร์รี่หันไปขอให้เซนป้อนให้เขาด้วยนั้น
เจ้าตัวอาจจะไม่รู้ว่าตัวเองทำสายตาแบบไหนออกไป...สายตาที่ไม่ว่าใครก็ต้องใจอ่อน
ถ้าเขาไม่อยู่ตรงนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“อร่อยรึเปล่า”
“อร่อย”
แฮร์รี่ตอบเนือยๆ ขณะซุกหน้าเข้าหาซอกคออุ่นหนีช้อนที่อีกคนยื่นมา
ไม่ใช่ว่ามันไม่อร่อย เขาแค่อยากกินขนมปัง ไส้กรอก หรืออะไรอย่างอื่นที่ไม่ใช่ซุป
แต่เขาก็รู้ว่าลูอิสพยายามแค่ไหนที่จะทำมันออกมา
“อร่อยแล้วทำไมเมื่อคืนกินไม่หมดล่ะ”
“ก็คนป้อนไม่ใช่นายนี่หน่า”
แฮร์รี่ละออกมายิ้มอ้อน พร้อมกับรับซุปอุ่นๆ เข้าปาก
ลูอิสเขยิบขึ้นจูบริมฝีปากอีกคนเบาๆ
เพราะหมั่นเขี้ยวริมฝีปากหยักที่เอาแต่พูดอ้อนเขาไม่หยุด
แต่นั่นทำให้แฮร์รี่ตกใจจนกลืนซุปลงคอไปในทันที
"ค่อยๆกินสิ"
ลูอิสดุเมื่อเห็นอีกคนทำท่าเหมือนจะขาดอากาศหายใจก่อนจะหัวเราะขำ
"กินต่อมั้ย"
แฮร์รี่พยักหน้าตอบแทบทันทีพร้อมบอก
"ขอแบบเมื่อกี้อีกด้วยนะ"
0 ความคิดเห็น