Always Beside You [1/?]
6:00 am
by chickyrabb
Talk:
ฟิคเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แต่งฟิควันไดเรคชั่น
ครั้งแรกแต่งเมื่อปี 2012 แต่งจบไปแล้ว
แต่พอมาอ่านซ้ำหลายๆ รอบก็เจอหลายจุดที่อยากแก้เลยรีไรท์ซะเลย
เนื้อเรื่องเดิมทั้งหมดอยู่ที่บล็อกเก่านะคะ
สำหรับใครที่เคยอ่านแล้วไม่อยากอ่านซ้ำก็มองข้ามไปได้เลยนะคะ
เพราะเนื้อเรื่องไม่ได้ต่างจากเดิมมาก อาจจะมีตัดบางส่วนออกและเพิ่มบางอย่างเข้าไป
บางคู่อาจจะมีโมเม้นท์เพิ่มบ้างเล็กน้อย เรื่องนี้จะแต่งมาลงเรื่อยๆ
ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ
“อือ..”
เสียงแหบต่ำครางครึมในลำคอขณะใช้มือยาวคลำหาคนที่อยู่ในอ้อมกอดเขาเมื่อคืน
แต่กลับไม่เจอจนต้องลืมตาขึ้นมาสู้แสงจ้ายามบ่าย
“ลูอิส” เมื่อมองสำรวจไปรอบๆห้องแล้วก็ไม่เจอ
คนบนเตียงลุกขึ้นนั่งตั้งสติอีกครั้ง
เขาก็ได้ยินเสียงเครื่องทำความสะอาดดังมาจากห้องข้างๆ
นั่นหมายถึงยังมีอีกคนอยู่ในบ้านหลังนี้
บ้านหลังนี้เป็นของลูกพี่ลูกน้องของเขา…ลูอิส ทอมลินสัน
ที่เขาต้องมาอยู่ที่นี่ก็เพราะมีปัญหากับที่บ้าน
ซึ่งมันก็ดูจะเป็นปัญหาที่งี่เง่ามากถ้าคนนอกมารับฟัง แต่สำหรับเขาแล้ว
การมาอยู่ที่นี่คือทั้งหมดที่เขาต้องการ
เขาลุกจากเตียงมาจัดการตัวเองเสียใหม่
พอออกมาจากห้องก็เจอกับผู้หญิงวัยกลางคนในชุดทำความสะอาดกำลังลากเครื่องดูดฝุ่นออกจากห้องนอนข้างกัน
“ผมช่วยฮะ” ร่างสูงโปร่งเดินเข้าไปช่วยอย่างเต็มใจ
“โอ้ ขอบใจจ้ะ พ่อหนุ่ม”
เขายกเครื่องดูดฝุ่นลงมาจนถึงชั้นล่างก็ได้ยินเสียงใสที่ไม่คุ้นเคยพูดคุยอยู่กับคนทำความสะอาด
“คุณหนูคะ ถ้าป้าเจอขนมบนห้องอีก ป้าจะให้คุณเพย์นจัดการแล้วนะคะ”
เป็นการดุที่ไม่น่ากลัวเลยสักนิดสำหรับเขา
แต่เจ้าของเสียงใสกลับโต้กลับมาเหมือนเป็นเรื่องใหญ่โต
“ไม่เอานะ! ป้าเจสอะ อย่าฟ้องเลียมสิ เซนยังไม่เคยว่าอะไรผมเลย”
เจ้าของเสียงเป็นเด็กหนุ่มผมซอยสั้นสีฟาง ผิวขาวชมพู และที่น่าสังเกตอีกอย่างแก้มป่องนั่นกำลังขึ้นสีระเรื่อ
เสียงที่คุ้นเคยหัวเราะดังมาจากทางห้องครัวพอมองตามไปก็เห็นเจ้าของบ้านเดินตรงมากับเงินจำนวนหนึ่งในมือ
“ขอบคุณนะครับป้าเจส” หญิงวัยกลางคนรับเงินจากเจ้าของบ้านและออกจากบ้านไป
“ฉันนึกว่านายจะตื่นเร็วกว่านี้ซะอีก ตอนนี้ไม่มีอะไรกินแล้ว
รอออกไปกินตอนเย็นเลยนะ” เขาพยักหน้าตอบด้วยรอยยิ้ม
แขนยาวจะพาดรอบเอวคนตัวเล็กกว่าตามความเคยชิน
แต่อีกคนถอยห่างและจับมือเขาพาเดินมาที่โซฟาแทน
“ใครอ่ะ” ไม่ใช่เขาหรอกที่ถามแบบนั้น แต่เป็นเจ้าของเสียงใสนั่นต่างหาก
“นี่แฮร์รี่ ลูกพี่ลูกน้องฉัน เขาย้ายมาอยู่กับฉันน่ะ ส่วนนี่ไนออล
เพื่อนฉันเอง” เจ้าของบ้านแนะนำแขกทั้งสองคนให้ได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ
ไนออลยิ้มกว้างให้เป็นการทักทาย เช่นเดียวกับร่างสูงที่ยิ้มตอบกลับ
“เดี๋ยวฉันหาอะไรมาให้กินรองท้องนะ ไนออลเอาอะไรเพิ่มมั้ย”
ลูอิสจัดให้แฮร์รี่นั่งลงที่ฝั่งหนึ่งของโซฟาตัวยาวตรงข้ามกับเพื่อนของตน
“ไอศกรีม” เสียงใสร้องบอก
เจ้าของบ้านรับคำและเดินกลับเข้าไปในห้องครัวอีกครั้ง
“นี่ แฮร์รี่ ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่หละ” คำถามซื่อๆ
ที่สามารถแปลไปได้หลายความหมายทำให้ได้สายตาที่แปลกใจส่งกลับมาจากนัยน์ตาเขียว
“เอ่อ.. ฉันหมายถึง นายมาทำอะไรน่ะ”
คำอธิบายเหมือนจะไม่ทำให้อีกคนเข้าใจคำถามของเขาได้
ไนออลจึงเขยิบเข้าใกล้พร้อมกับอธิบายอีกครั้ง
“ปกติลูอิสไม่ค่อยให้ใครมาอยู่ด้วยน่ะ อย่างฉันยังนานๆ ถึงจะมาที อ่อใช่
บ้านฉันอยู่อีกสองบล็อกถัดไปนี่เอง อยู่กับเพื่อนอีกสองคน เซนกับเลียม
เดี๋ยวนายก็จะได้เจอ เย็นนี้พวกเราจะไปกินข้าวด้วยกัน ลูอิสน่าจะยังไม่ได้บอกนาย”
ไนออลพูดยืดยาวตามนิสัย คนฟังหัวเราะเบาเมื่อเขาลืมไปแล้วว่าอีกคนตั้งใจจะถามอะไรเขาในตอนแรก
“นายยิ้มหวานเหมือนลูอิสเลย น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย”
นิ้วป้อมจิ้มตรงลักยิ้มเขาให้บุ๋มลงไปอีกพร้อมกับหัวเราะอย่างชอบใจ
แฮร์รี่มองเข้าไปในนัยน์ตาสดใส ไนออลมีตาสีเดียวกับลูอิสแต่กลับสดใสกว่า
ดวงตาของลูอิสเป็นสีฟ้าอ่อนๆติดจะเทาอยู่มากทำให้ดูหม่นกว่าของไนออลไปนิด
แต่ก็ยังสวยงามไม่ต่างจากกัน
“ไอศกรีมมาแล้ว” เสียงหวานกระแอมเล็กน้อยก่อนพูด
ทำให้ทั้งสองคนบนโซฟาแยกตัวห่างกัน
ไนออลเห็นในมือเรียวมีไอศกรีมของเขาอยู่ก็ยื่นไปรับมาทันที และจากนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจบทสนทนาของอีกสองคนเลย
“รู้นะ คิดอะไร”
ลูอิสนั่งลงบนที่วางมือฝั่งแฮร์รี่วางจานคุ้กกี้ไว้บนหน้าตักกว้างพร้อมกับกระซิบบอก
“คิด...คิดอะไร” แฮร์รี่ถามกลับอย่างตกใจ
เขาไม่คิดจะเปรียบเทียบลูอิสกับไนออลอย่างนั้นนะ แค่เห็นว่ามีตาสีฟ้าเหมือนกันเอง
“อย่ายุ่งกับไนออล” สิ้นเสียงหวาน
แฮร์รี่ไม่ทันจะได้อ้าปากถามอะไรเสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังรัวสลับกับการทุบประตูหนักๆ
“ขโมยเหรอ” ลูอิสตะโกนถาม และได้เสียงดุดันที่ตอบกลับมา
“เซน” ไนออลสะดุ้งสุดตัวแทบจะทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น
เขาวางถ้วยไอศกรีมลงบนโต๊ะเล็กตรงหน้าก่อนจะขดตัวกลมให้ผนักโซฟาช่วยบังตัวไว้
แฮร์รี่เห็นอย่างนั้นก็หันมาหาลูอิสแต่เจ้าตัวตรงไปที่หน้าประตูด้วยท่าทางสบายๆเสียแล้ว
“ไนออลอยู่ไหน” เสียงดุแทบจะตะโกนใส่หน้าเจ้าของบ้าน
แต่ยังไม่ทันที่ลูอิสจะตอบอะไร
คนเสียงดุก็เดินเข้ามาในบ้านตาคมปรายมองแฮร์รี่ที่หันมามองเขาจากโซฟาก่อนจะเดินเข้าไปในครัว
ลูอิสกลับมายืนพิงโซฟาจนอีกคนเดินกลับออกมา
เซนมองมาที่โซฟาอีกครั้งก่อนจะก้าวขึ้นไปด้านบน
เมื่อขายาวพ้นสายตาไปลูอิสตบมือบนผนักและก้าวยาวๆมาที่หน้าประตูพร้อมกับไนออลที่กระโดดข้ามผนักโซฟาออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว
แฮร์รี่เห็นลูอิสพิงประตูถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก็เดินมาหา
ตั้งใจจะถามถึงคนหน้าโหดที่อยู่ด้านบนและไนออลที่รีบวิ่งออกไป
“ทำอะไร” คราวนี้เป็นแฮร์รี่ที่สะดุ้งเพราะเสียงดุนั่นดังมาอีก
เซนเดินลงมาจากด้านบนด้วยใบหน้าเรียบเฉย
ตาคมมองสลับระหว่างเจ้าของบ้านกับคนแปลกหน้า
“นี่ใคร”
“อ่า.. แฮร์รี่” ลูอิสเม้มปากยิ้มบอก คิ้วหนายกขึ้นคล้ายจะถามว่า
‘จริงเหรอ’ เจ้าของบ้านจึงพยักหน้าหนักๆตอบอีกครั้ง
“และนี่ก็เซน” ลูอิสหันมาบอกกับแฮร์รี่ที่ยืนจ้องตาคมนิ่ง
“เอ่อ.. หาไนออลเจอมั้ย”
และก็เป็นเจ้าของบ้านที่ทำลายความเงียบที่สร้างความรู้สึกประหลาดให้กับเขา เซนแค่ส่ายหน้าตอบก่อนจะเดินตรงมาที่ประตูและเปิดออกไป
“เดี๋ยวๆ ฟังก่อน” ลูอิสร้องห้ามอีกคนที่กำลังอ้าปากถามเขาอีกครั้ง
แฮร์รี่มีท่าทางหงุดหงิดอย่างชัดเจน เขารู้สึกไม่ชอบไอหน้าโหดนั่นเลย
การมองเขาหัวจรดเท้าด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรนั่นเป็นการทักทายที่แฮร์รี่ไม่สามารถยอมรับได้
เขาก็ไม่เคยเจอคนแบบนี้ที่ไหนมาก่อน
และเขาไม่เคยไม่ชอบหน้าใครตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันแบบนี้เลยสักครั้ง
“เซนเป็นเพื่อนฉัน นายต้องเจอเขาอีกแน่
อย่างน้อยก็เย็นนี้เราต้องไปทานข้าวด้วยกัน นายก็ทำตัวดีๆกับเขาแล้วกัน เขาเป็นคนดีนะ”
ทำไมต้องเป็นเขาล่ะที่ทำตัวดีๆ
ถ้าหมอนั่นทำดีกับเขาก็ใช่ว่าเขาจะไม่ดีด้วยซะหน่อย
ใครมาเจอคนแปลกหน้าทำตัวแบบนี้ใส่ก็ต้องโมโหกันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
“ส่วนไนออล...” ลูอิสเว้นช่วงไปทั้งที่ยังจ้องหน้าเขานิ่ง
แฮร์รี่เลยเป็นคนที่ต้องทำอะไรสักอย่างเอง
“โอเค ไม่ยุ่งกับไนออล ฉันสัญญาเลยจะไม่ยุ่งกับเขาแน่นอน”
แฮร์รี่ยกมือขึ้นข้างตัวบอกด้วยท่าทางจริงจัง
พอเห็นอีกคนอมยิ้มก็สอดมือเข้ากอดเอวเล็กมาแนบลำตัว
“ยิ้มอะไร”
“เปล่านี่ ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว” คนตัวเล็กกว่าขืนตัวออกจากอ้อมกอดหลวม
ก่อนจะหายขึ้นไปด้านบน แฮร์รี่เดินกลับมานั่งกินคุ้กกี้ที่อีกคนใส่จานมาให้ที่โซฟา
เขาไม่เข้าใจเท่าไหร่นักว่าทำไมลูอิสถึงไม่อยากให้ยุ่งกับไนออล
เพราะว่าเขาเปรียบเทียบระหว่างไนออลกับลูอิสอย่างนั้นเหรอ
เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างนั้นเสียหน่อย
แต่ลูอิสก็ไม่น่าจะรู้ความคิดของเขาขนาดนั้น หรือเขาเองที่แสดงออกมากไป
คิดไปคิดมาเขาก็สรุปเอาเองว่าไม่มีเหตุผลไหนเลยที่เหมาะสมกับสิ่งที่ลูอิสบอก
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังจะเลือกทำตามที่อีกคนบอกอยู่ดี
ลูอิสอาบน้ำเสร็จก็มาเรียกให้แฮร์รี่ไปแต่งตัวใหม่
โดยเจ้าตัวเตรียมเสื้อผ้าเอาไว้ให้แล้ว ไม่นานนักก็มีรถมาจอดที่หน้าบ้าน
พร้อมกับเสียงใสตะโกนเรียกพวกเขาดังมาจนถึงชั้นบน
“ลูอิส แฮร์รี่ พวกเรามารับแล้ว” ลูอิสจัดการล็อคบ้านจนเรียบร้อยก็เดินนำแฮร์รี่ขึ้นรถมา
“เลียม นี่แฮร์รี่”
ลูอิสแนะนำคนที่นั่งประจำที่คนขับให้รู้จักกับลูกพี่ลูกน้องของเขา
เลียมแค่หันมายิ้มทักทายก่อนจะออกรถ
ข้างกันไนออลนั่งอยู่เบาะข้างคนขับ ส่วนเซนนั่งเงียบอยู่หลังคนขับ ลูอิสนั่งถัดมาก่อนจะเป็นแฮร์รี่
บรรยากาศในรถไม่ได้เงียบจนเกินไปนัก
เพราะมีเสียงใสของไนออลฮัมเพลงตามวิทยุที่เปิดอยู่ตลอดเวลา
บางทีก็ร้องออกมาจนสุดเสียงเมื่อถึงท่อนที่ตัวเองชอบ
แฮร์รี่เห็นลูอิสทุบหน้าขาเซนหลังจากทั้งสองคนซุบซิบอะไรกันบางอย่าง
เขาก็อยากจะรู้ว่าทั้งสองคนคุยอะไรกัน
แต่ทั้งเสียงของไนออลและเสียงเพลงวิทยุดังเกินไป
จนกระทั้งไม่มีใครทันสังเกตเลยว่าเซนกับลูอิสกำลังคุยกันอยู่
“เข้าไปข้างในกันก่อนเลยนะ ฉันขอคุยกับเซนก่อน” พอคนขับจอดรถได้สนิท
เขาก็คว้าคอคนที่เดินตามลงมา ไนออลเห็นอย่างนั้นก็ควงแขนลูอิสกับแฮร์รี่คนละข้างเดินเข้ามาในร้านก่อน
“ฟ้องอะไรเลียม บอกมาเลยนะ”
ทันทีที่นั่งลงลูอิสก็คาดคั้นเจ้าของรอยยิ้มกว้างทันที
“แค่บอกเซนไปพังประตูบ้านนายแค่นั้นเอง”
ไนออลบอกพร้อมกับรับเมนูจากพนักงานมาไล่ดู ลูอิสหัวเราะตอบ
แฮร์รี่พอเลือกเมนูได้เขาก็มองไปรอบๆร้าน จนมองออกไปด้านนอก
เห็นสองคนที่ยังไม่ยอมเข้ามา...
เขาเห็นเหมือนเซนกำลังตะโกนใส่เลียมที่ยืนกอดอกฟังอีกคนนิ่ง
สักพักเลียมถึงยื่นมือมาจับไหล่เซนเอาไว้พูดด้วยท่าทางใจเย็นกว่าเซนมาก
เลียมดูเป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผลมากในสถานการณ์นี้
ถึงเขาจะไม่ได้ยินว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน แต่แค่เห็นท่าทางก็พอเดาออก เซนโวยวายใส่เลียมอีกครั้งก่อนจะยอมแพ้ในที่สุดเมื่อเลียมบอกอะไรบางอย่างด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“มองอะไร” คนข้างตัวสะกิดที่หน้าขาพร้อมกับเอ่ยถาม
แฮร์รี่หันไปส่ายหน้าตอบด้วยรอยยิ้มจางๆ อีกคนก็ไม่ได้สนใจเขาอีก
ไม่นานหลังจากนั้นเซนกับเลียมก็เข้ามา ไนออลลุกให้เซนเข้ามานั่งด้านในตามด้วยตัวเองก่อนจะเป็นเลียมที่นั่งริมสุด
ตลอดมื้ออาหารมีเสียงไนออลกับลูอิสมากที่สุด
เพราะทั้งคู่ผลัดกันเล่าเรื่อง ผลัดกันหัวเราะอย่างสนุกสนาน
พวกเขาที่เหลือได้แต่นั่งฟังและหัวเราะไปตามเสียงสดใสนั้นไปเรื่อย
แฮร์รี่ได้รู้จักเพื่อนๆของลูอิสมากขึ้นจากบทสนทนาตลอดมื้ออาหาร
ไนออลร่าเริง หัวเราะเก่ง รอบๆตัวจะมีออร่าของความสดใสอยู่ตลอด
ส่วนเลียมก็ดูเป็นผู้ใหญ่ มีเหตุผล และใจเย็น แต่ก็ขี้เล่น ชอบแกล้งไนออลบ้าง
ลูอิสบ้าง รวมถึงเซนด้วยในบางที และเซน คนที่ไม่อยากนึกถึงที่สุด ด้วยความไม่ถูกชะตาที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งแรกที่เจอจนถึงตอนนี้เซนแทบจะไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำนอกจากบอกให้ไนออลเคี้ยวให้หมดก่อนแล้วค่อยพูด
และบอกให้ลูอิสเสียงเบาลงหน่อย แต่เขากลับได้รู้เรื่องราวของเซนมากกว่านั้น
เมื่อสองปีก่อนลูอิสแขนหักจากการแข่งขันฟุตบอล คนที่สกัดลูอิสจนล้มนั้นกระดูกขาส่วนล่างแหลกจากการกระแทกครั้งเดียวของเซน
ที่ตั้งใจเอาคืนที่ทำเพื่อนเจ็บ
นั่นคงเป็นสิ่งที่เขาจะทำเช่นกันหากเขาอยู่ในเหตุการณ์
แต่ในเมื่อเขาไม่ได้อยู่และไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของลูอิสเลย
เขาจึงทำได้เพียงรับฟัง และขอบคุณอีกคนอยู่ในใจ
แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพวกเขาทั้งหมดนี้มีความสัมพันธ์อย่างไรกัน
ลูอิสดูสนิทกับทั้งสามคน แต่สามคนนั้นน่าจะสนิทกันเองมากกว่า
เขารู้ว่าลูอิสไม่ค่อยให้ใครเข้ามายุ่งกับชีวิตส่วนตัว
นั่นอาจจะเป็นคำอธิบายที่ดีก็ได้ที่ลูอิสห้ามเขาไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับไนออล
“คิดอะไร” เสียงหวานดังอยู่ข้างหู
พอหันไปตามเสียงปลายจมูกก็ชนเข้ากับจมูกรั้นของอีกฝ่าย
“เปล่า ไม่มีอะไร”
แฮร์รี่ยิ้มพร้อมกับส่ายหน้าบอกทำให้ปลายจมูกที่ติดกันถูกันไปมา
จนอีกคนต้องหดหน้าหนี
ลูอิสทำหน้าย่นใส่เขาก่อนทำท่าจะเขยิบหนีไป แต่มือใหญ่ก็คว้าแขนเอาไว้ก่อน
เลียมมาส่งพวกได้สักพักแล้วหลังจากทานข้าวเสร็จ
พอมาถึงลูอิสก็เปิดทีวีนั่งดูเทปรายการที่ตนชอบ เขาเลยนั่งเงียบๆอยู่ข้างกัน
“อะไร” ลูอิสถามห้วน
“ไม่อยากนอนคนเดียว” แฮร์รี่เกยคางบนไหล่เล็กเป็นเชิงอ้อน “มันแปลกที่
ฉันนอนไม่หลับแน่”
“นายไม่ได้สิบขวบนะ” แฮร์รี่กอดคนตัวเล็กจากด้านหลังพลางถอนหายใจ
“แค่อยากนอนด้วย” เขาเอนตัวอีกคนไปทางซ้ายทีขวาที เขาไม่ยอมหรอกนะ
เขามาที่นี่เพื่อให้เขาได้อยู่กับลูอิส แล้วจะมาปล่อยให้เขานอนคนเดียวได้ยังไงกัน
“ก็ได้ๆ พอแล้ว เข้าใจแล้วน่า ลุกสิ”
เสียงหวานบอกอย่างรำคาญแต่ก็ลุกเดินนำเขาขึ้นไปด้านบน
และก็เป็นอีกคืนที่เขามีอีกคนอยู่ในอ้อมแขน
และจะเป็นแบบนี้ทุกคืนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
0 ความคิดเห็น