Don’t Forget About Me
6:00 am
Title: Don’t Forget About Me
Fandom: One Direction
Pairing: Liam Payne/Niall Horan
Characters: Liam Payne
Author: chickyrabb
++
โฮ่ง โฮ่ง!
สุนัขตัวใหญ่เห่าเรียกชายหนุ่มร่างสูงผู้เป็นเจ้าของพร้อมกับหางที่สะบัดไปมาอย่างรวดเร็ว ... วันนี้เป็นวันสำคัญ ร่างสูงจึงใช้เวลาในการแต่งตัวมากกว่าปกติทำให้เจ้าตูบต้องมาร้องเรียกอยู่แบบนี้
“แกดูจะตื่นเต้นกว่าฉันอีกนะ ลีออน” มือหนาลูบบนขนนุ่มอย่างเอ็นดู ริมฝีปากคลี่ยิ้มกว้างกับการเอียงหัวรับน้ำหนักมือของเขาที่ ‘ลีออน’ เจ้าโกลเด้นรีทรีฟเวอร์วัยเจริญพันธุ์มักทำเป็นประจำเวลาอยากให้เขาเอาใจ
“ขึ้นรถไปก่อนเลยเดี๋ยวฉันปิดบ้านก่อน” ชายหนุ่มเปิดประตูรถคันโปรดด้วยรีโมทในมือก่อนจะเดินกลับไปที่ประตูบ้านอีกครั้ง สุนัขแสนรู้จึงกระโดดขึ้นนั่งประจำที่ข้างคนขับตามคำสั่ง
“ฉันดูดีแล้วรึยัง” เสียงทุ้มเอ่ยถามสหายตัวโตพลางหัวตัวไปมาตรงหน้าเจ้าตูบ ซึ่งได้คำตอบเป็นการเห่าเสียงดังอีกครั้งหนึ่งเจ้าตัวถึงยอมขึ้นนั่งประจำที่คนขับและขับรถออกจากบ้านมาได้
“..รอบนรถนะ” เขาออกคำสั่งอีกครั้งหลังจากจอดรถหน้าอาคารไม้สองชั้นที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ทั้งห้อยลงมาจากด้านบนและจากกระถางน้อยใหญ่บริเวณหน้าประตู
“เลียม!” เสียงแหลมร้องเรียกเจ้าของร่างสูงที่ก้าวเท้าเข้ามาในร้านหวังจะทำให้อีกฝ่ายตกใจ แต่เปล่าเลย เขาได้เพียงรอยยิ้มอ่อนโยนส่งกลับมาให้เท่านั้น
“โถ่ ไม่สนุกเลย ... ฉันจัดดอกไม้ไว้ให้แล้ว อยู่ข้างในน่ะ เดินไปเอาเองแล้วกัน” พูดจบร่างโปร่งก็สะบัดตัวหันกลับไปพรมน้ำให้ดอกไม้แสนรักของตนต่อ เลียมหัวเราะเบากับท่าทางแง่งอนของเพื่อนสนิทขณะตรงเข้ามาหยิบเอาช่อดอกไม้ของตนที่อีกฝ่ายจัดเตรียมเอาไว้ให้อย่างสวยงาม
แบลลาดอลน่าลิลลี่สีชมพูอ่อนถูกจัดรวมกันเป็นช่อใหญ่แซมด้วยเปรอสก้า ฟลอกซ์สีขาวบริสุทธิ์กับเถาไอวี่ที่พันตามก้านใบอย่างประณีต และสิ่งที่แต่งเติมทางด้านบนคือดอกกระจิดริดสีขาวสะอ้านตารูปทรงคล้ายระฆังเล็ก ส่งกลิ่นหอมหวนหวานอารมณ์ให้ได้คำนึงถึงความหมายของ ลิลลี่ ออฟ เดอะ แวลเลย์
..ยามเมื่อลมพันหวน ฉันจะกลับมาหาเธอ..
“มัวแต่ชื่นชมอยู่นั่นแหละ เจ้าลีออนรอจนหลับไปแล้วมั้ง” ได้ยินเจ้าของร้านเอ่ยปากเสียขนาดนั้นร่างสูงก็ส่งยิ้มให้เป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับคำขอบคุณ
“ขอบคุณนะ ลูอิส” เลียมบอกก่อนจะเดินออกมาหาเจ้าตูบที่โดนกล่าวหาว่าขี้เซาทั้งที่นั่งรออยู่บนรถเงียบๆ
โฮ่ง.. โฮ่ง โฮ่ง!
เมื่อเจ้านายเข้ามาใกล้สัตว์เลี้ยงแสนดีก็ส่งเสียงต้อนรับจนกลายเป็นนิสัย รอยยิ้มอ่อนโยนไม่ได้หายไปจากใบหน้าหล่อเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ...เขามีความสุขกับสิ่งที่จะได้พบเจอในวันนี้ หัวใจพองโตทุกครั้งที่นึกถึงสถานที่ที่กำลังมุ่งหน้าไป ท้องฟ้าสดใสในวันนี้ถือเป็นโชคดีทั้งตัวเขาเองและเจ้าลีออน เพราะเจ้าตูบนั้นจะได้วิ่งเล่นในทุ่งกว้างสุดสายตาจนเหนื่อยล้าและวิ่งกลับมาหาเขานั่งอ่านหนังสืออยู่กับที่
สถานที่ที่เงียบสงบจนได้ยินเสียงลมพัดแผ่ว ...
“ลีออน วันนี้จะซื้อชุดไหนดี เอาเป็น Festival Meals ดีมั้ย หรือ Full Pack เลยดี ฉันอยากกินสลัดนะ แต่นายกินจัมโบ้ชิปทั้งหมดไม่ได้นี่...” ราวกับพูดคุยกับตนเองในเมื่อสหายขนนุ่มไม่ส่งเสียงใดตอบกลับมาเลย เขาจึงสรุปเอาเองว่า
“...Full Chicken สลัดไก่ทอด และเบอร์เกอร์แอนด์ชิปครับ” ร่างสูงบอกกับพนักงานในร้าน Nando’s เขาคิดเมนูมาตลอดทางและได้ถามความคิดเห็นเจ้าลีออนแล้วแต่ไม่ได้รับคำโต้แย้งใดๆ จึงเดินตรงเข้ามาสั่งตามรายการที่ตนต้องการเสียเลย
“ทำไมสั่งเยอะจัง ปกติแค่ข้าวถ้วยเดียวก็อิ่มแล้วไม่ใช่เหรอ” หนุ่มผมลอนในชุดพนักงานเอ่ยถามอย่างเป็นกันเอง ...เขามาบ่อยเสียจนกลายเป็นคนสนิทของผู้จัดการสาขานี้ไปเสียแล้ว
“ข้าวเช้าด้วยน่ะ” อีกฝ่ายยกยิ้มจนเห็นรอยบุ๋มลึกที่แก้มก่อนจะหันไปเตรียมอาหารที่เขาสั่ง และไม่ลืมแอบเพิ่มเนื้อไก่ให้เขาอีกด้วย
“ได้แล้วครับ” มือหนาหยิบถุงพลาสติกจากเค้าเตอร์หลังจากยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้กับคนสนิทไปแล้ว เขาตั้งท่าจะหมุนตัวกลับไปแต่เสียงทุ้มพร่าก็เอ่ยขัดเสียก่อน “เอ้อ! เลียม เซนบอกให้แวะไปหาก่อนไปที่นั่นด้วย เห็นว่าได้หนังสือมาใหม่อยากให้เอาไปอ่านน่ะ”
“อื้ม” เขาตอบรับเพียงเท่านั้น ก็กลับออกมาที่รถดังเดิม แต่คราวนี้สหายขนนุ่มกลับไม่ส่งเสียงเห่าเหมือนเคย เพราะกำลังเคลิ้มไปกับลมเย็นจากช่องแอร์บนรถอยู่นั่นเอง
“อย่าเพิ่งยุ่งนะ ไปถึงแล้วค่อยกิน” นัยน์ตาสีน้ำตาลเหลือบเป็นหางยาวสะบัดซ้ายทีขวาทีก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าตูบยังจมูกดีไม่เคยเปลี่ยน เขาจึงต้องเอ่ยเตือนเอาไว้ก่อน อีกฝ่ายก็ทำได้แค่ส่งเสียงหงึงๆ อย่างออดอ้อนก่อนจะยอมไปเองเมื่อเจ้านายไม่หันมาสนใจตนอีก
“ฮัลโหล เซน อื้ม ใกล้ถึงร้านนายแล้ว ... โอเค” เลียมวางสายจากเพื่อนสนิทก่อนจะเลี้ยวซ้ายสุดเพื่อไปยังร้านหนังสือมือสองในย่านการค้าเมืองใหญ่ที่เพื่อนเขาตั้งใจเปิดมันเพื่อหาเลี้ยงตนเองตามความชอบ
“เอานี่... ฉันว่าเขาน่าจะชอบ” ร่างสมส่วนยืนติดชิดประตูรถยนต์คันงามพลางยื่นถุงหนังสือที่ตนเตรียมไว้แล้วให้
“ขอบใจนะ” รอยยิ้มถูกตอบแทนด้วยรอยยิ้มเสมอ... ทั้งคู่จ้องกันอยู่ครู่หนึ่งกว่าหนุ่มหน้าคมเจ้าของร้านหนังสือจะเอ่ยอะไรออกมา
“อย่าอยู่จนดึกล่ะ ทางมันเปลี่ยว ขับรถระวังด้วย ...ลีออนอย่ากวนเลียมตอนขับรถนะ เดี๋ยวจะไม่ได้กลับมาเลยทั้งคู่” เสียงนุ่มหลุดหัวเราะกับคำอวยพรที่น่ายินดีนั้น ก่อนจะเอ่ยลา เขาขับรถตรงออกนอกเมืองไปด้วยความคิดถึงในสายตา
เขาคิดถึง ...สถานที่แห่งนั้น
...คนคนนั้น
โฮ่ง ... สุนัขแสนรู้ร้องเรียกสิ่งที่ตนต้องการทันทีที่เห็นเส้นทางคุ้นตา มือหนาเอื้อมกดสวิตซ์ก่อนหลังคาBenz SL500 สีแดงเพลิงจะค่อยเปิดออกและพับเข้าเก็บที่ด้านหลัง กระจกเลื่อนลงจนสุดเปิดโล่งให้ลมแดดพัดผ่านใบหน้าหล่อ และขนหนานุ่มของเจ้าลีออนด้วยเช่นเดียวกัน
กลุ่มก้อนเมฆขาวจางลงเมื่อออกห่างจากตัวเมืองมาได้ไม่ไกลนัก เผยท้องฟ้าสีสดและแสงแดดร้อนที่พร้อมจะมอบความอบอุ่นให้กับทุกสิ่งมีชีวิตบนโลก ต้นไม้น้อยใหญ่เรียงตัวกันเป็นทางยาวสุดสายตา รถสปอร์ตสีเพลิงขับไปตามทางด้วยความเร็วคงที่แต่ก็ทำให้ใบไม้แห้งบนพื้นถนนกลับมาพลิ้วไหวเหมือนมีชีวิตได้อีกครั้ง
..Don't Forget About Me..
โฮ่ง!
สุนัขแสนรู้แสดงตนทันทีที่เท้าสัมผัสกับพื้นหญ้า เจ้าลีออนออกวิ่งด้วยท่าทางร่าเริงดึงเอารอยยิ้มบนใบหน้าหล่อกว้างกว่าเดิม เขาเดิมตามทางที่ลีออนวิ่งผ่านมาเพื่อตรงไปยังเนินเล็กๆที่มีต้นไม้สูงใหญ่ปกคลุมให้ร่มเงาอยู่
โฮ่ง โฮ่ง
ลีออนร้องเรียกอีกครั้ง หางของมันสะบัดซ้ายขวาพร้อมกับที่เจ้าตัวกระโดดไปมาเร่งให้เจ้านายเดินมาถึงเร็วๆ เลียมมาพร้อมกับข้าวของมากมายในมือ เขาบรรจงวางช่อดอกไม้ไว้ที่ใต้ต้นไม้ก่อนจะวางกล่องอาหารและหนังสือข้างๆกัน
“ไปวิ่งเล่นได้แล้ว ฉันจะอยู่ตรงนี้แหละ” มือใหญ่ลูบขนยาวนุ่มบนหัวของลีออนก่อนมันจะโค้งตัวรับและออกวิ่งไปยังส่วนอื่นของสวนสาธารณะ
ลานหญ้ากว้างนี้คือสวนสาธารณะระหว่างเมืองที่เขาอาศัยอยู่กับอีกเมืองใกล้กัน ที่มีคนมาพักผ่อนไม่มากนัก แต่ก็ไม่ได้รกร้างไปซะทีเดียว อย่างตอนนี้ก็ยังมีหนึ่งครอบครัว กับอีกสองคู่รักที่กำลังปิกนิกกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่อีกด้านหนึ่งของสวน
ส่วนที่เขามาอยู่ต้นไม้ต้นนี้เพราะมีความหลังกับมันมาไม่น้อย ...เจ้าลีออนรู้ดี
ในวันนี้เมื่อสี่ปีก่อน เขาใช้เส้นทางนี้เพื่อเดินทางไปอีกเมืองหนึ่งแต่เจ้าตัวป่วนก็ทำให้เขาเกิดปัญหา เขาเกือบชนเข้ากับรถที่สวนมา ต่างคนต่างขับหลบจนตกไหล่ทางไปทั้งคู่ พวกเขาจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินมานั่งพักในสวนสาธารณะใกล้ๆ เพื่อรอรถลากจากเมืองของตนมารับรถไป
“ผมต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ” ร่างสูงเอ่ยขอโทษ พร้อมกับจับให้หัวเจ้าตูบก้มตามมาด้วยเช่นกัน
“จริงๆแล้ว ผมก็กำลังคุยโทรศัพท์อยู่เหมือนกัน ไม่ใช่แค่คุณที่ประมาทหรอกครับ เลิกขอโทษผมได้แล้ว” เลียมเงยหน้ามองรอยยิ้มกว้างก่อนจะยิ้มตามออกมา
“ว่าแต่เจ้านี่ชื่ออะไรหรอครับ” เขามองตามมือขาวที่เล็กกว่าชี้มาทางเจ้าขนนุ่มที่ยืนชิดขาเขาคล้ายยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เพิ่งประสบมา
“ลีออนครับ เอ่อ... มันไม่กัดนะ” เจ้าของย่อตัวลงจับรอบปากสุนัขของตัวเองไว้หลวมๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ทำร้ายคนตรงหน้า มือเล็กยื่นมาแตะขนนุ่มอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่เมื่อเห็นลูกแก้วใสทอดมองมาคล้ายจะบอกขอโทษ เขาก็ยิ้มกว้างและย่อตัวนั่งลงตรงหน้าเจ้าตูบบ้าง
“ลีออน.. เจ้าหมาแสนรู้” เขาจับหัวมันโยกไปมาด้วยรอยยิ้ม เลียมยิ้มตามขณะปล่อยมือออกจากปากลีออน เพราะดูแล้วเจ้าตูบคงไม่ทำอะไรคนน่ารักตรงหน้านี้หรอก
“เอ่อ... แล้วคุณ?”
“ไนออลครับ” เสียงใสบอกทั้งที่ยังคงลูบไล้ไปตามขนหนานุ่มของสุนัขแสนรู้
“ผมเลียมนะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”
นั่นเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้พวกเขารู้จักกัน ได้สนิทกัน และ
..รักกัน..
เขาเองก็ไม่เคยคิดว่าการจากลาจะมาถึงไวขนาดนี้ แต่ในเมื่อมันได้เกิดขึ้นแล้ว และผ่านไปแล้ว เขาก็ทำได้แค่ทำใจยอมรับมัน ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยอมรับกับการอยู่ตัวคนเดียวเหมือนที่เคยอยู่ แต่ต้องยอมรับว่าบางสิ่งได้เปลี่ยนไป
หัวใจของเขาได้ถูกเติมเต็มด้วยรอยยิ้มสดใสจากคนตัวเล็ก และไม่มีวันเลือนหายไป แม้เจ้าของมันจะไม่อยู่ตรงหน้าเขาอีกแล้วก็ตาม
“ไนออล.. ผมมาหาคุณแล้วนะ” เขากวาดมือไปรอบๆพื้นหญ้าเตียนใต้ต้นไม้
ใต้พื้นดินนี้มันก็ไม่ได้มีอะไรมากนอกจากกล่องความทรงจำเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างเขากับไนออล ที่นำมาฝังเอาไว้ก่อนอีกคนจะเข้าโรงพยาบาลไปด้วยอาการป่วยเรื้อรังของตน ตลอดเวลาสี่ปีเคียงข้างกันมา พวกเขารู้จักความสุขมากกว่าความเศร้าทำให้ในช่วงเวลาที่ต้องจากกันโดยรู้ว่าจะไม่ได้พบเจอกันอีก พวกเขาก็ยังคงยิ้มให้กัน
“สัญญาสิว่า...จะไม่ลืมกัน” คำขอสุดท้ายที่อีกคนรั้นจะเอาคำตอบจากเขาให้ได้ในตอนนั้น
“นายไม่ได้ไปไหน ไนออล นายแค่จะมาอยู่ในใจฉัน นายจะอยู่กับฉันตลอดไป ถ้าฉันลืมนายนั่นหมายถึงฉันลืมหัวใจตัวเองด้วย” มือขาวนุ่มซีดเซียวลงจากเมื่อแรกสัมผัส แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของเขาที่มีให้กับคนตรงหน้าน้อยลงตามได้เลย
“ฉันรักนาย”
“ฉันก็รักนาย ฉันจะรักนายตลอดไป” เขานั่งมองนัยน์ตาสีฟ้าใสค่อยๆถูกเปลือกตาบดบังเชื่องช้า ก่อนลมหายใจของคนตรงหน้าจะขาดห้วงไปในที่สุด
ก้อนเนื้อในอกกระตุกแรงราวกับมีใครมากระชากมันออกมาและกระแทกมันกลับเข้าไปใหม่ เขากุมมือเล็กแนบอกพร้อมกับลุกขึ้นโค้งตัวจูบหน้าผากมน แก้มนุ่มสีซีด และริมฝีปากที่เคยนุ่มหยุ่น
“ฉันไม่มีวันลืมหัวใจตัวเองหรอกนะ ไนออล” เขาบอกชิดริมฝีปากเรียว เขาจดจ้องมันอยู่นานก่อนจะถอยตัวเองออกมาให้ คุณหมอและพยาบาลที่เข้ามาได้สักพักแล้วทำหน้าที่ของตนเอง
สองมือใหญ่ถูกกุมไว้ด้วยเพื่อนรักทั้งสามคนที่ล้อมตัวเขาอยู่ ต่างคนต่างเงียบไม่มีคำพูดไหนสามารถอธิบายความรู้สึกต่อเหตุการณ์ตรงหน้านี้ได้
รอยยิ้มที่เกิดขึ้นในตอนนั้น บอกไม่ได้ว่าเป็นความรู้สึกแบบไหน เขารู้เพียงว่าอีกคนไม่ได้จากเขาไปไหนไกลเลยสักนิด ความอบอุ่นในอกยังมีอยู่ แม้จะมีลมเย็นพัดผ่านให้หวิวเล่นแต่ก็ไม่ได้ทำให้หัวใจของเขาหายไป ซ้ำยังเตือนให้เขากอบกุมมันเอาไว้ให้อุ่นอยู่ตลอดเวลาด้วยซ้ำ
และจนถึงวันนี้เขาก็ยังคงยืนยันคำเดิม
‘เขาไม่มีทางลืมหัวใจตัวเอง’
+ + + + + + + + + + + + + + + + + +
พล็อตนี้มีน้องรีเควสเข้ามาบอกอยากเนียมเศร้าๆ แต่อารมณ์ไม่ขึ้นจริงๆงะ 5555555 ไม่ว่ากันเนอะ~
เจ้าลีออนน่ารักมั้ยคะ ฮ่ะๆ โกลเด้นน่ารักนะแต่เค้าไม่ชอบที่มันน้ำลายเยิ้มเท่านั้นเอง 5555555555
0 ความคิดเห็น