Always Beside You [3/?]
6:30 am
by chickyrabb
Talk:
เมื่อตอนที่แล้วเป็นแนรี่
ตอนนี้เป็นของแซรี่แล้ว แต่ก็ยังจบด้วยแลรี่เหมือนเดิมนะ
ส่วนตอนหน้าก็ยังคงเป็นแซรี่อยู่นะคะ ใครที่เคยอ่านของเดิมคงจะพอเดาได้
ยังไงก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะ
แล้วจะมาต่อเรื่อยๆเลยค่ะ ^ ^*
“ฉันเคยบอกนายแล้วไม่ใช่หรือไง
นายมัน...” เสียงตะโกนดังมาจากชั้นบนของบ้าน เลียม ลูอิส และแฮร์รี่นั่งอยู่ที่ชั้นล่างด้วยกันต่างมองหน้ากันไปมาอย่างแปลกใจ
ไนออลทะเลาะกับเซนอีกแล้ว
“ฉันไม่เชื่อใจนายอีกแล้ว”
ทั้งสามที่วิ่งขึ้นมาถึงหน้าประตูแล้วก็ต้องหยุดอยู่กับที่
เมื่อคนในห้องเปิดประตูออกมาเจอกับพวกเขาพอดี
ไนออลน้ำตานองหน้าหลบตาพวกเขาทั้งสามก่อนจะเดินหนีลงไปด้านล่าง
เลียมมองตามไปแต่ก็ตัดสินใจตรงเข้าไปหาเซนแทนที่จะเดินตามไนออลไป
“เกิดอะไรขึ้น”
เลียมถามพลางมองตามสายตาเซนที่จ้องเสื้อโปโลสีขาวที่อยู่บนเตียง
พอหยิบขึ้นมาดูก็ได้เห็นสาเหตุของการทะเลาะกันครั้งนี้
เสื้อโปโลสีขาว เสื้อตัวโปรดของไนออล
มีรอยจูบสีแดงสดอยู่บนปกเสื้อ
เดาได้ว่าเกิดจากผู้หญิงที่เป็นประเด็นในการทะเลาะกันหลายครั้งของพวกเขา
และเซนก็เพิ่งพาเข้ามาที่บ้านเมื่อสองวันก่อนอีกด้วย
“นายอธิบายได้ใช่มั้ย”
เซนยังคงนิ่งกับคำถามและเสียงทุ้มต่ำของเลียม
ลูอิสจึงดึงเสื้อจากมือเลียมมาดูด้วยตาตัวเอง ก่อนจะโยนให้แฮร์รี่ด้วยอารมณ์โกรธ
“อีกแล้วนะเซน”
ลูอิสพูดก่อนจะเดินออกไปจากห้องไป และเลียมก็เดินตามกันไปติดๆ
เหลือก็แต่แฮร์รี่ที่ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรดี
เขาไม่รู้ว่าทำไมไนออลต้องโกรธถึงขนาดนั้น
และเสื้อตัวนี้สำคัญยังไง ถึงมันจะชัดเจนอยู่แล้วว่ามีรอยจูบของผู้หญิงอยู่บนนั้น
แล้วยังท่าทางโกรธของเลียมที่เขาไม่เคยเห็น แถมลูอิสยังโมโหไปด้วยอีกคน
ทั้งที่เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องของอีกสามคนแท้ๆ
แฮร์รี่มองเซนที่ยังคงนิ่งเงียบก่อนจะตัดสินใจวางเสื้อไว้บนเตียงตามเดิม
แต่ก็โดนกระชากข้อมือและถูกเหวี่ยงให้ล้มลงบนเตียง
ตามมาด้วยเข่าแหลมกดทับบนต้นแขนและมือใหญ่ที่โอบรอบคอกดให้เขาจมหายไปกับเตียง
แฮร์รี่ทำอะไรไม่ได้แม้แต่จะร้องขอความช่วยเหลือ
เขามองไม่เห็นแม้แต่หน้าของเซนทั้งที่อีกคนอยู่ตรงหน้า
พอเขาขยับเซนก็ทิ้งน้ำหนักลงมาอีก
จนประสาทการรับรู้ของเขาเริ่มจางลงเขาเริ่มจะหายใจไม่ได้ เขาขยับตัวไม่ได้
แต่ในที่สุดเซนก็ละออกไปและออกจากห้องไปแทบจะทันที
แฮร์รี่สูดอากาศเข้าปอดอย่างเอาเป็นเอาตาย
เมื่อกี้เขาคิดว่าตัวเองกำลังจะตายไปแล้วจริงๆ
เขาไม่เคยคิดเลยว่าเซนจะมีแรงมากขนาดนี้
ถึงจะไม่ค่อยถูกกันมาตั้งแจ่เจอหน้าและมีปากเสียงกันบ้าง
แต่ไม่เคยลงไม้ลงมือกันแบบนี้ อาจจะเพราะอีกคนกำลังอยู่ในอารมณ์แบบนั้น
แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาลงแรงกับเขาเสียหน่อย นึกแล้วก็หงุดหงิด
“โอ๊ย”
เขาขยับตัวจะลุกขึ้นแต่ก็ต้องทิ้งตัวลงนอนใหม่อีกครั้ง
เพราะความเจ็บปวดที่วิ่งไปทั่วแขน
แฮร์รี่หายใจเข้าลึกก่อนจะผ่อนออกและพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง
พอยืนขึ้นได้เขาก็ลงมารวมกับอีกสามคนที่ด้านล่าง
“ไนออล ไม่เป็นไร เดี๋ยวเซนก็กลับมา
เขาไม่ไปไหนหรอก เชื่อฉันสิ”
เลียมปลอบคนที่ขดตัวกอดเขาตัวเองอยู่บนโซฟาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
แต่ไนออลก็ยังไม่ร้องไห้สะอื้นไม่หยุด จนเลียมทำได้แค่กอดปลอบ
ลูอิสอีกนั่งประกอบอยู่อีกฝั่งก็ลูบหัวลูบหลังปลอบอีกคนอยู่เช่นกัน
“นายจะจัดการยังไง”
ลูอิสถามเมื่อไนออลร้องไห้จนหลับไปแล้ว
“ไม่รู้ ฉันอยากฟังคำอธิบายจากเซนก่อน”
คำตอบไม่เป็นที่พอใจนัก ลูอิสเลยหันไปหาอีกคนที่นั่งเงียบอยู่ข้างเขามาตลอด
“โอ๊ย”
แฮร์รี่ร้องโอยเสียงดังด้วยความเจ็บปวดทันทีที่นิ้วเรียวแตะลงบนต้นแขน
“แขนเป็นอะไร” ลูอิสส่งเสียงดังอย่างตกใจ
ทำเอาเลียมหันมามองด้วยความเป็นห่วงด้วยอีกคน
“เจ็บตรงไหน”
ลูอิสถามอีกครั้งขณะสัมผัสต้นแขนอีกคนอย่างเบามือ แฮร์รี่ส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไร
แต่น้ำตากลับคลออยู่เต็มเบ้า
“ลุก”
ลูอิสลุกขึ้นพลางออกคำสั่งก่อนจะหันไปหาเลียมที่พยักหน้าตอบ
แฮร์รี่จึงลุกเดินตามลูอิสออกมาที่รถเงียบๆ
“ใครทำ เซนใช่มั้ย”
แฮร์รี่ยังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไรจนถึงโรงพยาบาล
ลูอิสเดินนำเข้าไปก่อนจะปล่อยให้คุณหมอได้ดูอาการของแฮร์รี่อย่างถี่ถ้วน
และในระหว่างรอผลทั้งสองคนก็ยังคงไม่พูดอะไรกัน
“แน่ใจนะว่าดูแลได้”
คุณหมอถามอย่างเป็นกังวล
“ครับ ขอบคุณมากนะครับ”
แฮร์รี่กล่าวขอบคุณตามลูอิสก่อนจะเดินตามออกมาที่รถโดยไม่ลืมถือถุงยามาด้วยตัวเอง
“มีอะไรจะบอกฉันมั้ย”
เมื่อมาส่งแฮร์รี่จนถึงเตียงแล้ว เขาก็ถามอีกครั้งทันที แต่แฮร์รี่ก็ก้มหน้าไม่ยอมสบตา
จนลูอิสต้องถอดใจเดินหนีอีกคนออกมานอกห้องแทน
ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงตะโกนของลูอิสดังมาจากชั้นล่าง
ถ้าให้เดาลูอิสคงโทรไปโวยวายกับเซนเรื่องอาการของเขา
ที่แฮร์รี่ไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไรเพราะกลัวอีกคนจนขึ้นสมอง แรงของเซนในตอนนั้นถึงเขาจะตั้งตัวได้แต่ก็ยังโต้ตอบกลับไปไม่ได้อยู่ดี
เป็นประสบการณ์เฉียดตายที่น่าอนาจที่สุดในชีวิต
“เข้าไปบอกเขาว่านายจะทำอะไร”
ประตูห้องของแฮร์รี่ถูกเปิดออกโดยลูอิส
และตามมาด้วยคนที่เขาไม่อยากเจอมากที่สุดในตอนนี้
เด็กหนุ่มผมทรงตั้งสีดำสนิท
ทั้งสีหน้าและท่าทางไม่เป็นมิตรเหมือนเคย
“ขอโทษ
ฉันจะดูแลนายจนกว่าจะหายเป็นปกติ” น้ำเสียงบ่งบอกถึงความไม่เต็มใจ
ทำเอาคนบนเตียงตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
“ตั้งแต่ตอนนี้”
ลูอิสโยนกระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่มุมหนึ่งของห้องก่อนจะเดินออกไป
เซนจิ๊ปากอย่างขัดใจก่อนจะมองมาที่คนบนเตียงที่สะดุ้งสุดตัวและหลบตาเขาในทันที
“หมอบอกว่าไง แขนน่ะ”
เซนถามขณะมองสำรวจไปรอบห้อง ก่อนจะมาหยุดที่คนบนเตียงที่ยังตัวสั่นไม่หยุด
แถมยังมุดตัวหนีเข้าไปใต้ผ้าห่มเสียอีก
“ไม่แตกไม่หักใช่มั้ย”
เมื่อเห็นอีกคนกลัวเขาจนทำอะไรไม่ถูกก็เลยปรับเสียงให้อ่อนลง
อย่างน้อยอีกคนก็เป็นคนสนิทของเพื่อน เขาทำอะไรรุนแรงไปก็อยากจะขอโทษด้วยเหมือนกัน
ไม่คิดว่าแฮร์รี่จะอ่อนแอขนาดนี้
“ฉันทำนายเป็นใบ้ด้วยรึไง ตอบสิวะ”
เซนตะคอกอย่างหงุดหงิด ในเมื่อเขาพูดดีด้วยแล้วก็ไม่มีอะไรตอบกลับมา
“เซน” ลูอิสเปิดประตูเข้ามาเอ่ยเสียงดุ
ทำเอาเซนจิ๊ปากอีกรอบก่อนจะเดินสวนออกไป
“เป็นอะไรไป แฮร์รี่”
ลูอิสเดินตรงมานั่งข้างคนบนเตียงที่ยังสั่นไม่หยุดแถมยังก้มหน้าก้มตาอีก
มือเรียวดึงอีกคนมากอดไว้ถึงได้รับรู้ว่าแฮร์รี่กำลังร้องไห้
“กลัวเซนเหรอ”
ไม่มีการตอบรับจากคนตัวใหญ่กว่านอกเสียจากแขนแกร่งที่ดึงเขาเข้าไปกอดแน่น
“ไม่เป็นอะไรแล้ว
เซนทำอะไรนายไม่ได้แล้ว ฉันก็อยู่ตรงนี้ ฉันอยู่ตรงนี้” ลูอิสปลอบด้วยรอยยิ้ม
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงยิ้มออกมา
คล้ายกับว่าเขารู้สึกดีที่เห็นแฮร์รี่อ่อนแอ ได้เห็นน้ำตาของแฮร์รี่
ได้เห็นอีกคนร้องหาเขาเหมือนตอนเด็กๆ
“อยากบอกฉันมั้ยว่าที่บ้านไนออลเกิดอะไรขึ้น
ฉันจะได้ช่วยดูไม่ให้เซนทำแบบนั้นอีกไง” เมื่อแฮร์รี่ดูใจเย็นลงแล้ว
เขาก็ถามอีกครั้ง ถึงเซนจะบอกเขาแล้วก็เถอะ
“ไม่เอา ฉันไม่อยากอยู่กับเขา
แค่กระดูกเคลื่อนนิดหน่อยเอง ให้เขากลับไปเถอะนะ” แฮร์รี่ซบไหล่บางอย่างออดอ้อนโดยแถมเสียงสะอื้นเข้าไปอีกเพื่อให้อีกคนใจอ่อน
“เซนเป็นคนอาสามาดูแลเอง”
เขาบอกอย่างใจเย็น แต่อีกคนกลับส่ายหน้าไม่ยอมรับง่ายๆ
“เปิดใจหน่อยสิ แฮร์รี่
เซนไม่ใช่คนไม่ดีนะ” แฮร์รี่ยังคงส่ายหน้าปฏิเสธ ทั้งที่เซนฆ่าได้ด้วยมือเปล่าแท้ๆ
ลูอิสยังจะมาบอกว่าเป็นคนดีได้ยังไง
“ลองยิ้มให้เขาดูสิ”
คนบอกพยักหน้าเพื่อยืนยันความมั่นใจของตน ทำให้แฮร์รี่ต้องตอบรับอย่างเสียมิได้
เซนที่ออกมาสูบบุหรี่อยู่หลังบ้านนึกไปถึงเสื้อที่เอาไปให้ร้านซักรีดจัดการโดยด่วน
เขาตั้งใจว่าจะกลับบ้านไปพร้อมกับเสื้อสะอาดเหมือนใหม่และไนออลต้องให้อภัยเขาอย่างแน่นอน
แต่ก็ได้รับข้อความจากลูอิสว่าเขาทำแฮร์รี่แขนเกือบหัก
เลยต้องวานให้ที่ร้านส่งเสื้อกลับไปที่บ้านเอง ส่วนตัวเขาก็รีบมาหาบ้านเพื่อนทันที
“ไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย”
นั่นเป็นคำถามแรกของเขาเมื่อมาถึง
“ไม่แตกไม่หัก และยังไม่ตาย!”
น้ำเสียงประชดประชันถูกส่งกลับมาพร้อมกับตาเรียวที่มองมาอย่างเฉือดเฉือน
เซนได้แต่ถอนหายจและนั่งลงข้างกันบนโซฟา เวลานี้คงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ลูอิสหรอก
นอกจากเซน
“นายทำบ้าอะไรน่ะ ห๊ะ!” เซนเขยิบหลบมือบางที่ฟาดลงมาได้อย่างเฉียดฉิวเลยได้รับสายตาอาฆาตแค้นส่งมาให้แทน
“อยากฟังก่อนมั้ย” เซนถามอย่างใจเย็น
เมื่ออีกคนไม่พูดอะไรกลับมาเขาถึงพูดต่อ
“เมื่อวันก่อนฉันพาคริสตี้ไปที่บ้านตามสัญญา
ฉันไม่รู้ว่าเธอทำรอยนั่นไว้ตอนไหน แต่เมื่อเช้าไนออลเข้ามาหาเสื้อของตัวเองและก็เลยทะเลาะกัน”
“แล้วทำร้ายแฮร์รี่ทำไม”
ลูอิสถามเข้าประเด็นหลังจากใจเย็นลงบ้างแล้วเมื่อได้ฟังคำอธิบายเรื่องเหตุทะเลาะกัน
“ก็แค่โมโห”
ครั้งนี้เซนรับแรงจากฝ่ามือบางด้วยความเต็มใจ เขาทำไปเพราะอารมณ์โมโหล้วนๆ
ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ไม่ใช่โมโหที่แฮร์รี่อยู่ตรงนั้น
แต่เพราะโมโหตัวเองที่ไม่ระวังตัวให้ดีจนเกิดเรื่องขึ้น
“บอกกี่รอบแล้วห๊ะ
โมโหตัวเองก็ให้ลงที่ตัวเองอย่ามาลงที่คนอื่น
นี่แฮร์รี่ไม่รู้อะไรด้วยเลยต้องมารองรับอารมณ์ของนายจนข้อมือเคลื่อน
กระดูกเกือบร้าวแบบนี้ มันใช่เรื่องมั้ย”
เซนนึกแล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆ
เขารู้ว่าลูอิสห่วงแฮร์รี่ยิ่งกว่าอะไร
ถ้าเขาทำแบบนี้กับคนอื่นคงไม่โดนบ่นยืดยาวแบบนี้
แล้วก็คงไม่สั่งให้เขาอยู่ดูแลจนอีกคนหายเป็นปกติด้วย ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยทำให้คนอื่นเจ็บตัวเสียหน่อย
แต่เพราะคนที่ถูกทำร้ายเป็นแฮร์รี่ ลูอิสถึงแสดงท่าทางแบบนี้ออกมาให้เห็น
เขารู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสองคนไม่มากไม่น้อยไปกว่าเลียม
ลูอิสปรึกษาพวกเขามาตลอดสองปีตั้งแต่ได้กลับไปเจอลูกพี่ลูกน้องที่ไม่พบกันนานกว่าสิบปี
ความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงจนหาทางออกที่ถูกใจทุกฝ่ายไม่ได้
ทั้งที่ทางออกของปัญหาใหญ่ที่สุดมีวิธีแก้ที่ง่ายดายที่สุด
เพียงแค่เพื่อนเขาเปิดใจยอมรับน้องชายในฐานะคนรักเท่านั้นเอง
“นึกว่าหนีกลับไปแล้ว”
เซนเดินกลับเข้ามาในตัวบ้านก็เจอกับคนที่เพิ่งลงมาจากชั้นบนพอดี
“เสียงหวานเหมือนเดิมเลยนะ”
เขาเอ่ยแซวพร้อมยกยิ้มที่มุมปาก เลยเห็นสีหน้าตื่นตกใจที่ไม่ได้เห็นมาเสียนาน
ที่จริงเขาไม่ได้ยินเสียงอะไรพวกนั้นหรอก
เขาอยู่นอกบ้านจะไปได้ยินเสียงจากชั้นบนได้ยังไงกัน
เพียงแต่เหลือบเห็นรอยแดงจางๆที่หลังคอของอีกคนเลยแซวอย่างนึกสนุกไปอย่างนั้น
“ยิ้มอยู่นั่นแหละ
ไปเตรียมข้าวเตรียมยาให้แฮร์รี่เลย นายรับปากฉันแล้วนะ” ลูอิสบอกพลางชี้นิ้วคาดโทษแต่ก็ไม่ได้ทำให้อีกคนสำนึกเลยแม้แต่น้อย
“นายสิทำ
ฉันทำหมอนั่นได้ตายก่อนแขนหายแน่ ไปสิ ไปทำอาหารให้น้องชายสุดที่รักหน่อย
เดี๋ยวก็ไม่หายกันพอดี”
เซนนั่งลงบนโซฟายกเท้าขึ้นพาดบนโต๊ะเล็กด้านหน้าพลางออกคำสั่งอย่างถือดี ลูอิสเลยปาหมอนอิงใส่ด้วยความหมั่นไส้
“งั้นขึ้นไปนวดแขนให้แฮร์รี่ด้วย
และพูดกับเขาดีๆนะ ถ้าได้ยินนายตะคอกใส่เขาอีก นายตายแน่”
“อ้าว ไม่ได้นวดไปแล้วเหรอ
ร้องเสียงดังซะขนาดนั้น นี่ถ้าฉันนวดให้แล้วจะร้องเหมือนกันมั้ยน้า”
ลูอิสมองตามเพื่อนที่เดินขึ้นบันได้ไปด้วยท่าทางยียวน พลางส่ายหัวอย่างระอา
เขาล่ะไม่รู้จริงๆ ว่าแฮร์รี่กลัวคนแบบนี้ไปได้ยังไง
“ส่งมือมา จะนวดให้”
เซนเปิดประตูเข้ามาในห้องเห็นแฮร์รี่ใส่ชุดนอนลายขวางที่ลูอิสน่าจะหามาเปลี่ยนให้จับแขนตัวเองพลิกไปมาพร้อมทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด
จึงมานั่งลงข้างกันและบอกเสียงเรียบ
แฮร์รี่ไม่ได้ยืนมือให้ในทันที
ทั้งยังก้มหน้าหลบอีกคนจนเซนนึกรำคาญเลยจับแขนอีกคนมาไว้ในมือแทน
แต่ไม่ใช่กระชากมาเหมือนครั้งที่แล้วไม่อย่างนั้นอีกคนคงต้องไปโรงพยาบาลอีกครั้งแน่
เซนลงมือนวดจากข้อมือไปเงียบๆ ไม่ได้สนใจอาการสั่นที่อีกคนพยายามซ่อนไว้
แฮร์รี่เหลือบมองมือใหญ่ที่เคยบีบคอเขาจนเกือบขาดอากาศหายใจ
ตอนนี้กลับมาสัมผัสที่นิ่มนวลและอบอุ่นไปในคราวเดียวกัน
เขาขยับมองใบหน้าคมที่แสดงความตั้งใจออกมา ทำให้เขายิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
เพราะถ้าเซนคนนี้อาสามาดูแลเขาด้วยตัวเอง
อย่างน้อยก็ไม่ใช่คนไม่ดีอย่างที่ลูอิสบอกล่ะนะ
เซนเงยหน้ามองรอยยิ้มนั้นอย่างแปลกใจไม่น้อย
คนเจ็บที่อยู่ดีๆ ก็ยิ้มออกมาอย่างไร้สาเหตุ
แต่จะว่าไปเขาก็เพิ่งเคยเห็นลักยิ้มนั้นในระยะใกล้เป็นครั้งแรก
ถึงได้เข้าใจว่าทำไมเพื่อนเขาหลงรักคนตรงหน้ามากขนาดนี้
“เอ่อ...”
แฮร์รี่เห็นรอยยิ้มจางบนใบหน้าคมก็รู้สึกแปลกขึ้นมาจึงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง
“เจ็บเหรอ”
“เปล่า” ถึงคนเจ็บจะตอบอย่างนั้น
แต่เซนก็สัมผัสเบาลงเพื่อไม่ให้อีกคนร้องโวยวายจนลูอิสต้องมาแหวใส่เขาอีก
จากนั้นทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีกจนกระทั่งลูอิสขึ้นมาพร้อมกับอาหารและยา
“ไปไหน”
ลูอิสถามเมื่อเซนลุกจากเตียงทันทีที่เขาเข้ามา
“ป้อนข้าวให้แฮร์รี่
และดูให้กินยาด้วย”
พอได้ยินอย่างนั้นแฮร์รี่ก็เริ่มงอแงด้วยการจับมือลูอิสไว้พร้อมกับส่ายหน้าปฏิเสธอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวฉันจะมาอยู่ด้วย”
มือเรียวลูบผมลอนเป็นเชิงปลอบก่อนจะละออกมา
“กลัวฉันเหรอ”
เซนกลับมานั่งตำแหน่งเดิมบนเตียงถามขณะหยิบถ้วยซุปที่ลูอิสทำมาไว้ในมือ
“ลูอิสบอกรึเปล่าว่าไม่ต้องกลัว
ฉันจะทำอะไรนายแล้ว ขอโทษด้วยที่ทำให้เจ็บตัว” เขาบอกพร้อมกับสายตาจริงใจ
ทำเอาแฮร์รี่ทำอะไรไม่ถูก รู้ตัวอีกทีช้อนอุ่นก็จ่ออยู่ที่ปากเสียแล้ว
“กินสิ ลูอิสทำสุดฝีมือเลยนะ
นายจะได้หายไวๆ”
เซนบอกไปอย่างนั้นทั้งที่รู้อยู่แล้วนี่น่าจะเป็นซุปสำเร็จรูปที่อยู่ในซอง
เพียงแค่ต้มน้ำและใส่มันลงไปก็ได้ซุปร้อนๆ รสชาติพอใช้ได้มากินให้อิ่มท้องแล้ว
แฮร์รี่กินไปได้สองสามคำลูอิสก็กลับเข้ามาพร้อมกับหนังสืออ่านเล่นในมือ
ลูอิสตรงมานั่งอีกฝั่งหนึ่งของเตียง
ทำให้แฮร์รี่ต้องเขยิบเข้าไปใกล้เซนมากกว่าเคยเพื่อให้ลูอิสได้นั่งอย่างสบาย
เขาประหม่าไม่น้อยที่ต้องเข้าใกล้เซนมากขึ้นแม้มันจะไม่ใช่ระยะใกล้เลยสักนิดถ้ามองในฐานะของคนรู้จักกัน
แต่เขาเพิ่งเกือบโดนคนตรงหน้าฆ่าตายมานะ ความกลัวมันยังคงมีอยู่
“อิ่มแล้ว?” เซนถามเมื่ออีกคนไม่ยอมทานต่อขึ้นมาดื้อๆ ทั้งที่เหลืออยู่อีกเกือบครึ่ง
ลูอิสจึงหันมามองตาม
แต่พอเห็นเซนใช้ทิชชู่เช็ดปากให้แฮร์รี่แล้วก็ใจกระตุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“ไม่อร่อยเหรอ”
ลูอิสจับมือคนที่นั่งคั่นระหว่างเขากับเซนขณะถามเพื่อให้น้องเลิกจ้องหน้าเซนและหันมาหาเขา
“เปล่าหรอก อิ่มแล้วน่ะ”
แฮร์รี่หันมาตอบด้วยรอยยิ้ม
แต่แล้วก็ต้องหันกลับไปหาเซนอีกครั้งเมื่ออีกคนยื่นแก้วน้ำและยามาให้
แฮร์รี่ปล่อยมือจากลูอิสเพื่อรับยาและแก้วน้ำ
ก่อนจะส่งคืนให้เซนเมื่อทานเสร็จ เซนยิ้มกว้างออกมาทันที
ในตอนแรกเขาคิดว่าแฮร์รี่จะดื้อด้านไม่ยอมกินยาเหมือนกับไนออลเสียแล้ว
แต่เมื่อเห็นว่าการดูแลแฮร์รี่ก็ไม่ได้เหนื่อยอย่างที่คิดเลยยิ้มอย่างโล่งใจ
“ขอบใจ” แฮร์รี่บอกเสียงเบา
“แฮร์รี่”
ครั้งนี้ลูอิสเรียกให้คนของเขาหันกลับมาหาโดยที่ไม่ปล่อยให้แฮร์รี่จ้องรอยยิ้มกว้างของเซนนานจนเกินจำเป็น
แต่นั่นยิ่งทำให้เซนยิ้มกว้างขึ้นอีก
“ฉันเอาถ้วยไปเก็บนะ”
เซนตัดสินใจออกมาจากห้องเสียก่อนจะถูกมองด้วยสายตาแค้นเคืองที่ได้รับมาตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้วตั้งแต่มาถึงบ้านนี้
“ดีขึ้นมั้ย”
“อื้ม ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว
เพราะเซนนวดให้ด้วยแหละ” แฮร์รี่รวบเอวบางเข้ามากอดไว้ด้วยแขนข้างที่ไม่เจ็บพลางซบไหล่อ้อน
“นอนด้วยกันหน่อยสิ” เขากินยาไปแล้ว
ยังไงลูอิสก็ต้องบังคับให้เขานอนพักผ่อนอยู่ดี และยิ่งมีลูอิสมาเป็นหมอนข้างให้ก็คงจะยิ่งฝันดี
ลูอิสไม่ได้ห้ามปรามเพียงแค่ยิ้ม
และจัดให้อีกคนนอนลงในท่าทีสบายก่อนจะนอนลงในอ้อมแขนแกร่งที่พาดรอให้เขาเข้าไปอยู่แล้ว
0 ความคิดเห็น